Why you need Vitamin D-E-K?

วิตามินมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพร่างกายของเรา หากศึกษาจนเข้าใจคุณสมบัติดีแล้ว จะยิ่งทำให้เกิดประโยชน์มากขึ้น หลังจากที่ได้ความรู้เกี่ยวกับวิตามินครึ่งแรกไปแล้ว วิชาสุขศึกษาของเรายังไม่จบเพราะคุณครูบอกให้ท่องจำวนไปเลย เอตา ชาบี ซีฟัน ดีดูก เคเลือด ตอนนี้ก็เหลือ 3 คำหลังสุดท้าย พวกเขาต้องไม่น้อยหน้า วันนี้เรามารู้จักกับพวกเขากันเลยดีกว่า

ดีดูก หรือ วิตามินดี

เด่นเรื่องการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม (Calcium) จากลำไส้เพื่อให้ถูกส่งต่อไปสะสมที่กระดูกได้ดีขึ้น และยังช่วยลดการสลายตัวของแคลเซียมจากกระดูกออกมา มีส่วนช่วยบำรุงลำไส้เล็กและหัวใจ อีกทั้งยังช่วยต้านโรคมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย เราสามารถสร้างวิตามินดีได้เองโดยง่ายจากการสัมผัสกับแสงแดดอ่อน ๆ ที่มากับรังสี UVB ในเวลาช่วงเช้า หรือรับประทานอาหารจำพวกปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาดีน หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่เสริมวิตามินดี

อีหมัน หรือ วิตามินอี

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาว รักษาสมดุลของกลไกการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายให้ปกติ วิตามินอีเคยถูกนำมาทดลองกับหนูเพศเมียที่พบว่า มีสารชนิดหนึ่งทำให้หนูตั้งครรภ์เป็นปกติ แต่หากได้รับไม่เพียงพอจะทำให้หนูเกิดการแท้งลูก จึงมีการตั้งชื่อสารในเวลาต่อมาว่า วิตามินป้องกันการเป็นหมัน (Antisterrility Vitamin) ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง อีกทั้งยังมีการนำมาใช้ในรูปแบบเครื่องสำอางประเภทครีมบำรุงผิว ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เรามักพบได้มากในธัญพืช เช่น จมูกข้าวสาลี ถั่วเหลือง น้ำมันพืช ขนมปังโฮวีท

เคเลือด หรือ วิตามินเค

วิตามินเคมีชื่อมาจากภาษาเดนมาร์กคำว่า Koagulation แปลว่า การแข็งตัวของเลือด วิตามินเคมีความสามารถในการรักษาระบบเลือด เป็นส่วนหนึ่งที่ป้องกันโรคโลหิตจางและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเลือด ลดภาวะเลือดไหลมากหรือเลือดออกภายใน สำคัญมากกับผู้ที่มีแผลผ่าตัดเพราะจะทำให้เลือดแข็งตัวไวขึ้นและสมานรอยแผลได้เร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นส่วนช่วยกระบวนการสร้างลิ่มเลือดและบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ แหล่งที่พบวิตามินเคในผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักกระเฉด ผักโขม บน็อคโคลี่ และในผลไม้ เช่น ลูกแพร์ กล้วย ราสเบอร์รี่