ปลูกผมถาวร FUE (แบบเจาะ)

ปลูกผมถาวรแบบ FUE คืออะไร

การปลูกผมถาวร FUE หรือย่อมาจาก Follicular unit extraction นั้นหมายถึงการย้ายรากผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทอยไปถึงบริเวณเหนือหูทั้งสองข้าง ย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ เช่น แนวผมที่ร่นหายไป ศีรษะล้านบริเวณด้านบน และอื่นๆ  โดยคำว่า Follicular unit นั้นหมายถึง หน่วยของรากผมที่จะอยู่กันเป็นกระจุกในหนึ่งรูขุมขน

ในช่วง 20 ปีที่ก่อนหน้านี้ การย้ายรากผมจากท้ายทอยไปปลูกที่ด้านหน้ามักใช้การผ่าตัดที่เรียกว่า Strip harvesting หรือที่รู้จักกันในนาม FUT การทำผ่าตัดแบบดังกล่าวจะมีแผลเป็นยาวคงค้างอยู่ที่ด้านท้ายทอยยาวทอดไปถึงเหนือคิ้วทั้งสองข้าง แม้สามารถจะไว้ผมยาวลงมาปิดได้ แต่ก็สร้างความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตระดับหนึ่งเพราะไม่สามารถตัดผมสั้นได้ เพราะจะเห็นแผลเป็นเส้นยาว

ต่อมาในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มศัลยแพทย์ปลูกผมที่คิดริเริ่มและพัฒนา เทคนิกการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ที่ใช้เครื่องมือพิเศษคือหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะและดึงรากผมขึ้นมาเป็นหน่วยหรือเป็นกอ โดยไม่ต้องมีแผลเย็บ เรียกชื่อว่า เทคนิกปลูกผมถาวร FUE (เอฟยูอี) เป็นการเจาะและดึงออกมาทีละกอ ซึ่งวิธีการเช่นนี้แผลเป็นที่เกิดขึ้นจะมีขนาดเล็กมากเท่ารูขุมขน ดังนั้นจึงสามารถปกปิดได้ง่ายกว่า และอาการบาดเจ็บต่อหนังศีรษะข้างเคียงน้อยกว่า พักฟื้นไว เทคนิกปลูกผมถาวรแบบ FUE ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันแทบจะเป็นแนวทางหลักในศัลยกรรมปลูกผมไปแล้ว

ISHRS (สมาคมแพทย์ปลูกผมนานาชาติ) ได้ให้นิยามของคำว่า FUE สามารถเรียกว่า Follicular unit extraction หรือ Follicular unit excision ได้ทั้งสองอย่าง

ทำไมต้องปลูกผมแบบ FUE

เนื่องจาก เทคนิก FUE นั้นสามารถย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยและบริเวณเหนือหูได้โดยไม่เจ็บแผล สามารถพักฟื้นไว แผลเป็นก็สามารถปกปิดได้ดี จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ศัลยแพทย์ยังสามารถเลือกเจาะรากผมที่ดูแข็งแรง คุณภาพดีที่สุดมาใช้ปลูกผมได้ดีกว่าเทคนิกเก่า สามารถเจาะเอาผมหรือขนจากส่วนอื่นๆ มาใช้ได้เพื่อเสริมความหนาแน่นของผมที่ปลูก เช่น สามารถย้ายจากหนวด ขนตามร่างกาย มาปลูกผมเพิ่มความหนาแน่น อีกข้อดีของเทคนิก FUE คือในกรณีผมขาวหรือผมหงอก จะสามารถย้ายรากมาปลูกได้ดีกว่าเทคนิกอื่น

นอกจากนี้ FUE ยังแตกยอดออกไปเป็นเทคนิกพิเศษ เช่น Non shaven FUE คือปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม , Long hair FUE การปลูกแบบไม่ต้องโกนและปลูกผมยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลทันที หรือกรณีปลูกคิ้ว ยิ่งทำให้การพักฟื้นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ปลูกผมแบบ FUE ดีอย่างไร

  • เป็นการผ่าตัดเล็กในชั้นผิวหนัง ไม่มีอันตรายรุนแรงกับอวัยวะภายในอื่นๆ
  • เป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ใช้แค่ยาชาแบบฉีด สามารถใช้ยานอนหลับอ่อนๆ ควบคู่ได้ เรียกได้ว่าเจ็บน้อยกว่าถอนฟัน
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยอัตราการขึ้นของผมจะอยู่ที่ 95-98% ในมือของผู้เชี่ยวชาญ
  • พักฟื้นไว แผลจากการทำ FUE (แผล harvesting) จะสมานในระยะเวลา 24-48 ชม. เท่านั้น
  • เจ็บน้อยมาก หลังผ่าตัดอาจใช้ยาแก้ปวดแค่ พาราเซตามอล ก็เพียงพอ
  • ด้วยเทคนิก FUE สามารถนำขนจากส่วนอื่นมาปลูกนอกเหนือจากผมบนศีรษะ
  • เทคนิก FUE เหมาะกับผมหงอกหรือผมขาว เพียงแต่จำเป็นต้องย้อมผมเล็กน้อยก่อนผ่าตัด
  • โดยทั่วไป FUE จำเป็นต้องมีการโกนศีรษะเพื่อเก็บรากผม (harvesting) แต่ในมือผู้เชี่ยวชาญ สามารถเลือกทำแบบ non shaven คือไม่ต้องโกนผม สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยหลังผ่าตัด
  • ภาวะแทรกซ้อนน้อยมากถึงแทบไม่มี แม้ว่าจะมีรูขุมขนอักเสบบ้างแต่ก็สามารถรักษาให้หายได้โดยง่าย

ทำไมต้องปลูกผมกับ BHI

  • ศัลยแพทย์ของ BHI เป็นศัลยแพทย์ที่ได้รับการศึกษาอบรมมาอย่างถูกต้อง มีวุฒิบัตรที่แสดงความรู้ความชำนาญจากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องและเป็นผู้มีจรรยาบรรณ มีประสบการณ์อย่างยาวนานในด้านศัลยกรรมปลูกผม นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกผู้บุกเบิกก่อตั้งสมาคมสำคัญเช่น สมาคมแพทย์ปลูกผมระดับเอเชีย AAHRS และสมาคมแพทย์ปลูกผมแห่งประเทศไทย TSHRS
  • ศัลยแพทย์เป็นผู้ลงมือทำการผ่าตัดด้วยตนเอง รวมทั้งควบคุมดูแลทีมงานทั้งหมด ศัลยแพทย์เป็นผู้ลงมือทำในกระบวนการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเจาะรากผม (harvesting) การวาดแนวผม การออกแบบการกระจายของกอผม การให้ยาชา การปลูกด้วยเครื่องมือ Implanters การปลุกผมนั้นจำเป็นต้องมีทีมงานช่วยกันหลายคนเพื่อให้เสร็จทันเวลาที่กำหนด หาไม่แล้วรากผมอาจจะตายได้ แต่ทุกกระบวนการศัลยแพทย์จะเป็นผู้ลงมือหรือกำหนดกรอบและควบคุมด้วยตัวเองในห้องผ่าตัด
  • ทีมงานของ BHI Clinic มีประสบการณ์สูง มีทักษะที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีมากกว่า 10 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน BHI clinic มีวัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังให้รักในการบริการ ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกอุ่นใจเพราะทีมงานดูแลเหมือนญาติมิตร
  • BHI clinic มีการค้นคว้าวิจัย เพิ่มพูนทักษะอยู่ตลอดเวลา เราใฝ่ใจในด้านวิชาการและการฝึกฝนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีมแพทย์หรือทีมพยาบาลผู้ช่วย เพื่อให้มีความรู้ความสามารถที่ทันสมัยตลอดเวลา พญ. กุลกานต์ อมรพัฒนา ยังได้เป็นวิทยากร และเป็นอาจารย์พิเศษสอนแสดงในโรงเรียนแพทย์หลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฏ โรงพยาบาลศิริราช ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้เชิญเป็นวิทยากรในงานประชุมทางการแพทย์อีกหลายแห่ง
  • นอกจากทักษะและความรู้ เรามีการนำอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยตลอดเวลา เมื่อมีเทคโนโลยีหรือองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง BHI Clinic จะนำมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพ เช่นเครื่องมือผ่าตัดที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น Trivellini’s MAMBA machine , Jean deVroy’s FUE machine, Staccato SMP machine, Implanters ต่างๆ, KEBOT hair analysis, Healite LASER, Scanxel LASER ฯลฯ
  • เราเป็นผู้นำทางด้านเทคนิกพิเศษ ได้แก่ Non shaven FUE, Long hair FUE, Combo FUE & FUT, Correction of bad FUE or FUT ยังได้รับความไว้วางใจจากศัลยแพทย์ท่านอื่นที่จะส่งเคสมาเพื่อปรึกษา หรือรักษาในกรณีที่ยากขึ้น
  • เราใช้เทคนิกการปลูกด้วย Implanters ทั้งแบบคมและทื่อ (sharp and blunt) และยังสามารถปลูกด้วยมือ Forceps ซึ่งเหมาะสมกับเคสที่หลากหลาย
  • เราใช้น้ำยาเลี้ยงเซลที่มีคุณภาพสูง เพื่อช่วยยืดอายุของรากผมนอกร่างกาย
  • เราสามารถปลูกผม โดยใช้รากผมที่ท้ายทอย หรือดึงเอาจากส่วนอื่นของร่างกาย ได้แก่ หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขนขา แล้วแต่ความเหมาะสมซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ให้การพิจารณา
  • เรามี 2 สาขา บริการ ในกรุงเทพฯ ได้แก่สาขาลาดพร้าว และที่พุทธมณฑลสาย 4 หรือศาลายา ท่านสามารถเลือกเข้ารับบริการตามที่สะดวก
  • เรานับราคาตามจำนวนกราฟท์ หรือ กอ ซึ่งหมายถึง กลุ่มรากผมใน 1 หน่วย ในหนึ่งหน่วยประกอบด้วยรากผม ตั้งแต่ 1-4 เส้น ดังนั้น จำนวนผมต่อกอจึงมีค่าเฉลี่ยที่ 2 รากผมต่อ 1 กราฟท์
  • เรามีการรักษาอื่นๆที่สำคัญอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ยาปลูกผม วิตามินปลูกผม แชมพูที่เหมาะสมกับผมร่วง การใช้ LASER ช่วยกระตุ้นรากผม หมวกเลเซอร์ เกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เซลบำบัด (Cell therapy) การใช้ cosmetic tattoo ช่วยเสริมในรายที่จำเป็น ฯลฯ และทีมงานศัลยแพทย์ตกแต่งของเราสามารถดูแลท่านในด้านอื่นๆ ของศัลยกรรมตกแต่งอีกด้วย
  • เรามีพันธมิตรเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่มากมาย ในกรณีที่ผู้รับบริการมีโรคประจำตัวมาก หากต้องการผ่าตัดในโรงพยาบาลก็สามารถทำได้ นอกจากนี้เรายังสามารถติดต่อล่าม หากท่านมีผู้สนใจเป็นชาวต่างชาติ
  • เรามีบริการรับส่งสนามบิน และบริการที่พัก สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติหรือต่างจังหวัด สามารถติดต่อกับผู้ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวก

ทำไมต้องปลูกผมกับ BHI

เจ็บเล็กน้อยขณะที่ฉีดยาชา หลังจากยาชาเฉพาะที่ออกฤทธิ์เต็มที่แล้วก็จะไม่รู้สึกเลยตลอดหัตถการ หลังผ่าตัดเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ก็มักไม่รู้สึกเจ็บ อาจมีรู้สึกแสบบ้างเวลาโดนน้ำเมื่อต้องล้างแผล ซึ่งกินเวลา 1-2 วัน ยาแก้ปวดมักใช้แค่พาราเซตามอลก็พอเพียง

ได้ผลดี อัตราการขึ้นของกราฟท์จะอยู่ที่ประมาณ 95-98% 

การปลูกผมแบบ FUE สามารถเรียกได้ว่าเป็นการปลูกผมถาวร เนื่องจากอายุขัยของรากผมที่ย้ายไปจะอยู่ได้นานเฉลี่ยถึง 20 ปี โดยหลังจาก 20 ปีเส้นผมอาจค่อยๆ เล็กลงและดูบาง นั่นเพราะการเปลี่ยนแปลงของขนาดรากผมตามอายุที่มากขึ้นและความเสื่อมของเซล อย่างไรก็ตามหากดูแลร่างกายโดยรวมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อายุขัยของรากผมก็จะยืดเวลาออกไปได้นานยิ่งขึ้น

ควรกินยาและปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ การกินยานั้นจุดประสงค์หลักคือเพื่อรักษารากผมที่เหลืออยู่ตามธรรมชาติ ไม่ให้ร่วงหลุดหรือบางลงเร็วเกินไปนัก อย่างไรก็ตาม หากไม่ประสงค์จะรับประทานยาในระยะยาวก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาทางเลือกอื่นๆได้

การผ่าตัดแบบ FUE โดยทั่วไปจำเป็นต้องโกนผมที่ท้ายทอยเพื่อทำการเจาะราก แต่หากไม่สะดวกก็สามารถทำเทคนิก Non shaven FUE โดยไม่ต้องโกนผมได้ โดยศัลยแพทย์จะใชกระบวนการและเครื่องมือที่พิเศษขึ้นในการทำ แต่อาจใช้เวลามากและทำยากกว่าเทคนิกปกติ เมื่อได้รากผมมาแล้วก็จะนำไปปลูกที่ตำแหน่งบนศีรษะเหมือน FUE ปกติ ส่วน Long hair FUE นั้น จะพิเศษขึ้นกว่า Non shaven คือรากผมที่ได้มาเราจะไว้ยาวประมาณ 4-10 cm เพื่อนำไปปลูกที่ด้านหน้าหรือด้านบนศีรษะเลย เมื่อเสร็จผ่าตัดคนไข้จะเห็นได้ทันทีว่าเมื่อปลูกแล้วผลจะออกมาทำให้หน้าเปลี่ยนอย่างไร การทำ Long hair FUE ต้องใช้ทักษะค่อนข้างมาก ใช้เวลานาน   

สำหรับ DHI นั้นมาจากคำว่า Direct hair implanting หมายถึงการใช้ sharp implanter ปักผมลงไปโดยตรงไม่ต้องใช้มีดหรือเข็มเจาะรูนำ (คล้ายๆ การดำนา) คำว่า DHI เป็นคำที่มีผู้จดสิทธิบัตรไว้ในต่างประเทศเพื่ออธิบายขั้นตอนกระบวนการ (ในประเทศไทยไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้)  ที่ BHI Clinic เราใช้ implanter ทั้งชนิด sharp และ blunt ร่วมกันอยู่แล้ว DHI จึงไม่ใช่เทคนิกใหม่ เป็นแต่เพียงชื่อเรียกกระบวนการเพื่อโฆษณาเท่านั้น

เส้นผมของคนไทยความหนาแน่นตามธรรมชาติ จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-80 กอต่อตารางเซนติเมตร ในคนต่างชาติ(ผมน้ำตาล ผมแดง บลอนด์) อาจมีความหนาแน่นหนามากกว่านี้ อาจถึง 70-100 กอ ต่อตารางเซนติเมตร) สำหรับศัลยกรรมปลูกผมเราสามารถอัดจำนวนกราฟท์ให้แน่นได้ถึง 60-100 กราฟท์ต่อตารางเซนติเมตร แต่ความหนาแน่นที่ปลอดภัยและสวยงามสำหรับคนไทยจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 กราฟท์ต่อตารางเซนติเมตร การปลูกแน่นกว่านี้อาจมีความเสี่ยงที่จะมีอัตราขึ้นน้อยลง เพราะมีการแย่งสารอาหารและแบ่งเลือดที่มาเลี้ยงเซล หากปลูกน้อยก็อาจมีความหนาแน่นไม่ดีดูบางเมื่อเทียบกับผมปกติ แต่หากปลูกแน่นเกินไปก็อาจทำให้อัตราการขึ้นไม่ดีได้เช่นกัน

อีกประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ ปริมาณผมที่เหลืออยู่บนท้ายทอยที่จะสามารถบริจาคในอนาคต  เนื่องจากผมที่ท้ายทอยนั้นมีจำกัด หากนำจำนวนทั้งหมดไปถมที่บริเวณด้านหน้าจนหมดแล้ว ในอนาคตอีก 10-20 ปีเมื่อภาวะศีรษะล้านขยายวงกว้างมากขึ้น ท้ายทอยก็จะมีไม่พอเพื่อจะบริจาคไปปลูกทั่วทั้งศีรษะส่วนบน เป็นผลให้มีสภาพด้านหน้ามีผมเป็นเหมือนเกาะกลางน้ำ มีผมกระจุกด้านหน้าแต่ด้านบนไม่มีผมเลยดูไม่สวยงาม

BHI Clinic เรามีการคำนวณปริมาณผมที่สามารถบริจาคในชั่วชีวิต และสามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมในระยะยาวด้วย KEBOT hair analysis สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมได้

ไม่จำเป็น การรักษาด้วยการย้ายรากนั้นเป็นเรื่องของการผ่าตัด เป็นศัลยกรรมตกแต่งชนิดหนึ่ง การรักษาด้วย PRP หรือ Cell เป็นการรักษาเสริมเพื่อยืดอายุรากผมที่มีตามธรรมชาติ จะทำด้วยกันหรือแยกกันก็ได้

ไม่จริง แผลเป็นจาก FUE มีลักษณะเป็นจุดขาวๆ กระจายทั่วบริเวณบริจาค หากโกนผมสั้นก็จะมองเห็นได้ แต่การแก้ไขสามารถทำได้ด้วยการไว้ผมยาวอย่างน้อย 3 มม. หรือการทำ cosmetic tattoo (SMP)

ไม่จริง ไม่ว่า FUT หรือ FUE ต่างก็เป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่ง เป็นการผ่าตัดเล็กที่อยู่ในชั้นผิวหนัง การโฆษณาว่าไม่ใช่การผ่าตัดนั้นไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าไม่ต้องการดูแลโดยแพทย์ ในความเป็นจริงการผ่าตัดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต้องมีการเตรียมด้วยกระบวนการปราศจากเชื้อ ต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ ต้องมีสถานที่ที่ได้มาตรฐานสะอาดเพื่อการผ่าตัดเล็ก ต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตชั้นสูง แพทย์ต้องมีใบอนุญาตในการดำเนินการผ่าตัด ต้องสามารถส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน

 ไม่จริง มีการศึกษาในต่างประเทศที่ระบุว่าขนาดหัวเจาะน้อยกว่า 1 มม. นั้นแผลเป็นที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างกัน ดังนั้น หากหัวเจาะเล็กกว่า 1 มม. ขนาดแผลมักไม่แตกต่างกัน การใช้ขนาดหัวเจาะที่เหมาะสม เข้ากันพอดีกับขนาดของรากผมจะดีที่สุด เพราะไม่ทำให้รากขาดหรือชอกช้ำ

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE

  1. แพทย์จะทำการตรวจสภาพผม ทั้งตำแหน่งที่จะปลูกและตำแหน่งบริจาค หากมีภาวะศีรษะเถิกก็จะทำการวาดแนวผมที่ต้องการและเทียบวัดพื้นที่เป็น ตารางเซนติเมตร
  2. เมื่อได้พื้นที่แล้วก็จะคำนวณความหนาแน่น ความหนาแน่นที่สวยงามและปลอดภัยจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 กราฟท์ต่อตารางเซนติเมตรสำหรับคนไทย หรือ 40-60 กราฟท์ต่อตารางเซนติเมตรในคนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม จำนวนที่เหมาะสมขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง ได้แก่ สภาพผมที่มาบริจาค ขนาดของเส้นผม ลักษณะความหยิกตรงของเส้นผม สีของเส้นผม (หงอก-ดำ) จำนวนพื้นที่โดยรวมที่ต้องการปลูก ความหนาแน่นของผมที่ท้ายทอย ฯลฯ ซึ่งจะได้คุยกับแพทย์ถึงปริมาณที่เหมาะสม
  3. นัดวันผ่าตัดที่สะดวก โดยอาจต้องมีการงดยา หรืออาหารเสริมบางชนิดล่วงหน้า 7-10 วัน ก่อนผ่าตัดแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ
  4. วันผ่าตัดคลินิกจะทำความสะอาดด้วยการสระด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ วาดแนวผม โกนผม ย้อมในกรณีจำเป็น และนำผู้รับบริการเข้าห้องผ่าตัด ในขณะที่มีการระบาดของเชื้อ Covid19 ทางคลินิกจำเป็นต้องขอให้ทำการตรวจ ATK มาจากบ้าน
  5. ผู้รับบริการ รับประทานยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ ยานอนหลับอ่อนๆ แล้วเข้าห้องผ่าตัด ญาติสามารถนั่งรอบริเวณที่คลินิกจัดไว้ให้หรืออาจไปธุระ แล้วทางคลินิกจะแจ้งเวลานัดรับกลับเมื่อเสร็จกระบวนการ
  6. ในห้องผ่าตัด เราจะทำการตรวจวัดชีพจรและค่าออกซิเจน รวมทั้งอัตราการเต้นหัวใจอีกครั้ง และผู้รับบริการนอนคว่ำเพื่อทำการฉีดยาชาที่ท้ายทอย ขั้นตอนนี้กินเวลาประมาณ 15 นาที
  7. เมื่อยาชาเฉพาะที่ออกฤทธิ์เต็มที่ ศัลยแพทย์จะเริ่มการเจาะดึงรากออกมา โดยเครื่องมือพิเศษ ในเวลานี้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยเพราะฤทธิ์ยาชา และส่วนใหญ่จะหลับจากยานอนหลับอ่อนๆ ขั้นตอนนี้ใช้เวลา ประมาณ 1-3 ชม. ขึ้นกับปริมาณกราฟท์ที่ต้องการปลูก
  8. หลังจากเจาะรากผมได้ครบแล้ว ให้ผู้บริการเปลี่ยนเป็นท่านอนหงาย ระหว่างนี้อาจมีช่วงหยุดเพื่อให้รับประทานอาหารกลางวันซึ่งทางคลินิกจะจัดเตรียมให้
  9. เมื่อนอนหงาย ศัลยแพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่อีกครั้งด้านหน้าและทำการปลูกผมตามแนวที่วางไว้แต่แรก ระหว่างนี้ผู้รับบริการมักจะนอนหลับ หรือนอนฟังเพลงไปเพลินๆ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-3 ชม. ขึ้นกับปริมาณกราฟท์
  10. เมื่อปลูกผมเสร็จแล้ว เช็ดทำความสะอาด และเป่าผมแห้ง เราจะปิดแผลด้วยผ้าก๊อสและวัสดุปิดแผล พันผ้าที่ศีรษะและรัดบางๆด้วย head band (แถบรัดศีรษะ) และใส่หมวกหรือสวมผ้าคลุมผมที่ทางคลินิกจัดเตรียมไว้ให้
  11. นัดล้างแผล หรือสระผมในวันถัดไป

Non Shaven FUE

ข้อจำกัดของ FUE คือการต้องโกนผมที่ท้ายทอย ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาขั้นตอนและเครื่องมือที่สามารถเจาะเอารากผมออกโดยไม่ต้องโกนผม หรือที่เรียกว่า Non Shaven FUE Technique ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้น ทางคลินิกของเรามีบริการด้วยเทคนิกนี้มานานและ ผลลัพท์ที่ดีตอบสนองต่อความจำเป็นของผู้รับบริการบางท่านที่ไม่สามารถโกนผมหรือหยุดงานได้ อย่างไรก็ดี การเจาะโดยไม่โกนนั้นต้องใช้ความละเอียดและทำยากกว่า ดังนั้นจึงใช้เวลานานกว่า และค่าใช้จ่ายก็มากกว่าด้วยแผลเป็นที่เกิดขึ้นอาจไม่สวยสม่ำเสมอเหมือนกับการโกนไปเลย

Body Hair Transplantation

ศัลยกรรมย้ายรากผม

นอกจากสามารถทำการย้ายรากผมจากท้ายทอยไปปลูกในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว ยังสามารถใช้ผมจากส่วนอื่นของร่างกายไปทดแทนผมที่ร่วงหายไปได้อีกด้วย ตำแหน่งที่สามารถใช้ปลูกทดแทนกันได้บ่อยที่สุดได้แก่หนวดเครา หากลักษณะของเส้นผมและหนวดใกล้เคียงกันก็ยิ่งใช้ได้ดี สำหรับขนที่อื่นๆนั้น แม้ว่าจะสามารถใช้ปลูกทดแทนได้แต่อัตราการขึ้นมักไม่ค่อยดี การทำ Body hairtransplantation ใช้ทักษะในการผ่าตัดสูง ศัลยแพทย์ที่ทำได้มีจำนวนไม่มาก

TOP