Hairline design สไตล์ BHI

 

“ สำหรับนักกรีฑา การกระโดดสูงขึ้นอีก 1 เซนติเมตรคือชัยชนะ
สำหรับหมอปลูกผมการทำแนวผมที่เนียนสวยเป็นธรรมชาติคือตัววัดฝีมือที่สำคัญที่สุด ”

 

คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรมจะมีแพทเทิร์นที่คล้ายกันหมดคือเริ่มจากศีรษะเถิก การสร้างแนวผมใหม่ที่เข้ากับใบหน้าของคนไข้เป็นเรื่องที่สำคัญ ละเอียดอ่อน
และการทำให้แนวผมเนียนสวยเหมือนธรรมชาติ ยิ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย

สำหรับ BHI Clinic เรามีโปรโตคอลสำหรับการออกแบบแนวผมของคนไข้แต่ละคนให้มีความสมดุลกับใบหน้า คนแต่ละคนมีเครื่องหน้า และแนวผมที่ต้องการแตกต่างกัน
เราประยุกต์แนวคิดของการตัดสูทมาใช้ในการออกแบบแนวผม

ในการตัดสูทสากล ผู้รับบริการสามารถหาซื้อสูทสากลแบบที่ตัดมาแล้วหรือสูทสำเร็จรูปได้ (Ready to wear) สูทแบบนี้จะมีแพทเทิร์นที่ทำมาแล้วและขนาดต่างๆ ตามคาตาล็อค
เมื่อลองสวมแล้วถ้าไม่พอดีก็ต้องไปแก้ไขเอง

แต่สำหรับร้านสูทชั้นดีจะมีการวัดตัวเพื่อให้ช่างปรับขนาดให้เท่ากับรูปร่าง (Tailor made)
สูทแบบนี้จะใส่แล้วพอดี ดูดีกว่าแบบแรก อย่างไรก็ตามยังมีอีกเทคนิกการตัดที่เหนือระดับกว่าการวัดตัวธรรมดา นั่นคือ “Bespoke” โดยดีไซเนอร์ต้องทำการพูดคุยกับลูกค้า
เพื่อให้เกิดความเข้าใจในตัวตนและรสนิยมส่วนตัว นอกจากการวัดตัวที่ต้องแม่นยำ ดีไซเนอร์จะต้องประมวลบุคคลิกภาพ คาแรกเตอร์ Posture หรือท่าทางการขยับเคลื่อนไหวมาใช้ในการออกแบบแพทเทิร์นใหม่สูทที่ตัดออกมาจึงพรีเมี่ยม และเข้ากับผู้สวมใส่ทั้งกายภาพและจิตวิญญาณมากที่สุด

งานที่ปราณีตและเป็นศิลปะนี้ไม่สามารถทำผ่านเครื่องจักร หรือสมองกลได้ ดังนั้น BHI Clinic เราให้ความใส่ใจในรายละเอียดตรงนี้มากที่สุด เราใช้แนวคิดของการตัดสูทแบบ Bespoke มาใช้กับการออกแบบแนวผม ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะตามใจผู้รับบริการ หากว่าแนวผมที่ต้องการนั้นไม่สวยธรรมชาติ แพทย์จะทำความเข้าใจจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ดีทั้งสองฝ่าย
หากไม่สวยสมบูรณ์แบบ เราก็อาจปฏิเสธ ดังนั้นถ้าถามว่าขั้นตอนใดที่แพทย์จะใช้เวลากับคนไข้มากที่สุดก็คือขั้นตอนการออกแบบแนวผมนั่นเอง

“He who works with his hands is a laborer.
He who works with his hands and his head is a craftsman.
He who works with his hands and his head and his heart is an artist.”
Saint Francis of Assisi

“ สำหรับนักกรีฑา การกระโดดสูงขึ้นอีก 1 เซนติเมตรคือชัยชนะ
สำหรับหมอปลูกผมการทำแนวผมที่เนียนสวยเป็นธรรมชาติคือตัววัดฝีมือที่สำคัญที่สุด ”

 

คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรมจะมีแพทเทิร์นที่คล้ายกันหมดคือเริ่มจากศีรษะเถิก การสร้างแนวผมใหม่ที่เข้ากับใบหน้าของคนไข้เป็นเรื่องที่สำคัญ ละเอียดอ่อน
และการทำให้แนวผมเนียนสวยเหมือนธรรมชาติ ยิ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย

สำหรับ BHI Clinic เรามีโปรโตคอลสำหรับการออกแบบแนวผมของคนไข้แต่ละคนให้มีความสมดุลกับใบหน้า คนแต่ละคนมีเครื่องหน้า และแนวผมที่ต้องการแตกต่างกัน
เราประยุกต์แนวคิดของการตัดสูทมาใช้ในการออกแบบแนวผม

ในการตัดสูทสากล ผู้รับบริการสามารถหาซื้อสูทสากลแบบที่ตัดมาแล้วหรือสูทสำเร็จรูปได้ (Ready to wear) สูทแบบนี้จะมีแพทเทิร์นที่ทำมาแล้วและขนาดต่างๆ ตามคาตาล็อค
เมื่อลองสวมแล้วถ้าไม่พอดีก็ต้องไปแก้ไขเอง

แต่สำหรับร้านสูทชั้นดีจะมีการวัดตัวเพื่อให้ช่างปรับขนาดให้เท่ากับรูปร่าง (Tailor made)
สูทแบบนี้จะใส่แล้วพอดี ดูดีกว่าแบบแรก อย่างไรก็ตามยังมีอีกเทคนิกการตัดที่เหนือระดับกว่าการวัดตัวธรรมดา นั่นคือ “Bespoke” โดยดีไซเนอร์ต้องทำการพูดคุยกับลูกค้า
เพื่อให้เกิดความเข้าใจในตัวตนและรสนิยมส่วนตัว นอกจากการวัดตัวที่ต้องแม่นยำ ดีไซเนอร์จะต้องประมวลบุคคลิกภาพ คาแรกเตอร์ Posture หรือท่าทางการขยับเคลื่อนไหวมาใช้ในการออกแบบแพทเทิร์นใหม่สูทที่ตัดออกมาจึงพรีเมี่ยม และเข้ากับผู้สวมใส่ทั้งกายภาพและจิตวิญญาณมากที่สุด

งานที่ปราณีตและเป็นศิลปะนี้ไม่สามารถทำผ่านเครื่องจักร หรือสมองกลได้ ดังนั้น BHI Clinic เราให้ความใส่ใจในรายละเอียดตรงนี้มากที่สุด เราใช้แนวคิดของการตัดสูทแบบ Bespoke มาใช้กับการออกแบบแนวผม ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะตามใจผู้รับบริการ หากว่าแนวผมที่ต้องการนั้นไม่สวยธรรมชาติ แพทย์จะทำความเข้าใจจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ดีทั้งสองฝ่าย
หากไม่สวยสมบูรณ์แบบ เราก็อาจปฏิเสธ ดังนั้นถ้าถามว่าขั้นตอนใดที่แพทย์จะใช้เวลากับคนไข้มากที่สุดก็คือขั้นตอนการออกแบบแนวผมนั่นเอง

“He who works with his hands is a laborer.
He who works with his hands and his head is a craftsman.
He who works with his hands and his head and his heart is an artist.”
Saint Francis of Assisi