ปลูกผมถาวร

Home » BHI Service » ปลูกผมถาวร
เบ้สท์แฮร์ไอค่อนส์ (บีเอชไอ) คลินิก กรุงเทพฯ
การปลูกผม FUE หรือ การปลูกผมแบบเจาะ
อ่านต่อ
การปลูกผม FUT หรือ การปลูกผมแบบกรีด
อ่านต่อ
การปลูกผมเทคนิค Long-Hair FUE (FUE แบบผมยาว)
อ่านต่อ
การปลูกผม Non-Shaven FUE (การปลูกผม FUE แบบไม่โกน)
อ่านต่อ

ปลูกผมถาวรคืออะไร

ปลูกผมถาวรคือกระบวนการที่ใช้เทคนิคทางการแพทย์เพื่อย้ายเซลล์รากผมจากส่วนที่มีผมหนาแน่นไปยังส่วนที่มีผมบางหรือไม่มีผมเลย วิธีนี้ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงหรือผมบางกลับมามีผมที่ดูธรรมชาติและเพิ่มความมั่นใจในตนเอง

ข้อดีของการปลูกผมถาวร

  1. ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ: การปลูกผมถาวรช่วยให้คุณได้ผมที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้คุณดูหนุ่มสาวขึ้น
  2. ผลลัพธ์ถาวร: เมื่อเซลล์รากผมถูกย้ายไปยังตำแหน่งใหม่ มันจะเติบโตแทนที่เส้นผมที่สูญเสียไป
  3. ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ: การปลูกผมถาวรเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับสากล

ทำไมต้องปลูกผมถาวร?

  • คืนความมั่นใจ: ปลูกผมช่วยให้คุณกลับมามีเส้นผมที่หนาแน่นและดูเป็นธรรมชาติ ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
  • แก้ปัญหาผมร่วง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ มีแผลเป็นที่ศีรษะจากการผ่าตัดหรืออุบัติเหตุ ผู้ที่มีหน้าผากสูงหรือศีรษะเถิก
  • ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: ส่วนใหญ่แล้ว ผมที่ปลูกจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต
  • เทคนิคที่หลากหลาย: มีเทคนิคการปลูกผมให้เลือกมากมาย เช่น FUE (Shaven FUE, Non-shaven FUE, Long-hair FUE), FUT เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

ปลูกผมถาวรมีวิธีอะไรบ้าง

การปลูกผมถาวรสามารถทำได้หลายวิธี เทคนิคการปลูกผมที่นิยม คือ

  • FUE (Follicular Unit Extraction): วิธีนี้ใช้การเจาะรากผมทีละกอจากหนังศีรษะ และย้ายกอผมไปปลูกบริเวณที่ผมบางหรือไม่มีผม
  • FUT (Follicular Unit Transplantation): วิธีนี้ใช้มีดผ่าตัดในการตัดหนังศีรษะที่มีรากผมออกมาและเย็บปิดด้วยไหมผ่าตัด หลังจากนั้นกอผมจะถูกนำไปแยกออกจากกันภายใต้กล้องจุลทรรศน์ก่อนนำไปปลูกบริเวณที่ผมบาง

ขั้นตอนการปลูกผมโดยทั่วไป

  1. ปรึกษาแพทย์: แพทย์จะทำการประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  2. เตรียมพร้อม: ก่อนทำการปลูกผม คุณอาจต้องงดรับประทานยาบางชนิด หรือหยุดสูบบุหรี่
  3. เจาะย้ายรากผม: แพทย์จะทำการเจาะรากผมจากบริเวณที่ผมหนาแน่น ซึ่งมักจะเป็นบริเวณท้ายทอย
  4. สร้างรูเปิด: แพทย์จะสร้างรูเปิดเล็กๆ บนบริเวณที่ต้องการปลูกผม
  5. ปลูกผม: รากผมที่สกัดได้จะถูกนำมาปลูกในรูเปิดที่เตรียมไว้
  6. ดูแลหลังการปลูก: คุณจะได้รับคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการปลูกผม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ปลูกผมผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันไหม

การปลูกผมสำหรับผู้ชายและผู้หญิงอาจมีความแตกต่างกันในด้านการออกแบบแนวผม เนื่องจากผู้ชายมักมีปัญหาผมร่วงที่บริเวณหน้าผากหรือกระหม่อม ส่วนผู้หญิงมักมีปัญหาผมบางทั่วหรือหน้าผากสูง การปลูกผมจึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ลักษณะเฉพาะบุคคล และความต้องการของบุคคลนั้นๆ

การเลือกคลินิกปลูกผมถาวร

เมื่อเลือกคลินิกปลูกผมถาวร ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้:

  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์: ตรวจสอบว่าแพทย์มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการปลูกผม
  • เทคโนโลยีและอุปกรณ์: คลินิกควรมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยและสภาพแวดล้อมที่สะอาดเหมาะสมกับการดำเนินารผ่าตัด
  • รีวิวและผลงานที่ผ่านมา: ดูรีวิวและผลงานของคลินิกเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

BHI Clinic ,เบ้สท์แฮร์ไอค่อนส์ (บีเอชไอ) คลินิก

คลินิกปลูกผม (BHI Clinic) ดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมพลาสติกและตกแต่ง ท่านสามารถทำการนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์่ก่อนผ่าตัดได้  โดยการรักษาของเรามีหลากหลาย เช่น การปลูกผมแบบเจาะ, การปลูกผมแบบกรีด, การปลูกแบบผมยาว, การปลูกผมแบบไม่โกนผม ซึ่งการรักษาทุกรูปแบบ จะได้รับการประเมินจากแพทย์โดยตรงเท่านั้น

คลินิกปลูกผมกรุงเทพมหานคร สาขาลาดพร้าว 111
ชั้น 2 อาคาร SD Buildling ติดกับโรงพยาบาลเวชธานี ซอยลาดพร้าว 111 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

คลินิกปลูกผมนครปฐม สาขาศาลายา
223 หมู่ 9 (อาคารบ้านหลังสวน) ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

มาตรฐานใหม่ของคลินิกปลูกผม
คลินิกปลูกผมของเรามุ่งมั่นในการรักษาคุณภาพและการดูแลผู้รับบริการ เรายึดถือมาตรฐานอย่างเข้มงวดภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง การบริการที่จริงใจและที่สำคัญที่สุด คือ การให้การรักษาที่ถูกต้องในราคาที่เอื้อมถึง อีกทั้งใช้นวัตกรรมและเทคนิคที่ทันสมัยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ หัวใจสำคัญของเบื้องหลังความสำเร็จของบีเอชไอคลินิกก็คือ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดปลูกผมและทีมผู้บริหารของเรา บีเอชไอคลินิกมีทีมงานที่ได้รับการอบรมอย่างสม่ำเสมอทำให้บีเอชไอคลินิกเป็นคลินิกที่น่าเชื่อถือในการผ่าตัดปลูกผม

สิ่งที่คุณควรทำก่อนปลูกผม:

  • ปรึกษาแพทย์: บอกประวัติสุขภาพอย่างละเอียด รวมถึงยาที่กำลังรับประทานอยู่ แพทย์จะประเมินสภาพร่างกายและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
  • ตรวจสุขภาพ: ทำตามที่แพทย์สั่ง เช่น ตรวจเลือด ตรวจหัวใจ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายแข็งแรงพอสำหรับการผ่าตัด
  • หยุดยาบางชนิด: แพทย์อาจแนะนำให้หยุดยาบางชนิดก่อนทำการปลูกผม เช่น ยาต้านการอักเสบ ยาละลายลิ่มเลือด
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: สารนิโคตินและแอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตและการสมานแผล
  • เตรียมตัวล่วงหน้า: ล้างผมให้สะอาดก่อนเข้ารับการผ่าตัด หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
  • เตรียมเสื้อผ้าสบายๆ: หลังการผ่าตัด คุณควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและหลีกเลี่ยงเสื้อคอกลมหรือเสื้อที่มีกระดุมที่ด้านหลัง

สิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงก่อนปลูกผม:

  • ออกกำลังกายหนัก: การออกกำลังกายหนักอาจทำให้เลือดไหลมากขึ้น
  • รับประทานอาหารเสริมบางชนิด: อาหารเสริมบางชนิดอาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • ใช้ยาสมุนไพร: ยาสมุนไพรบางชนิดอาจมีผลต่อการทำงานของยาที่ใช้ในการผ่าตัด
  • สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง: แสงแดดอาจทำให้หนังศีรษะไหม้และระคายเคือง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น:

  • อาการบวม: เป็นอาการที่พบได้บ่อยหลังการปลูกผม อาการบวมจะค่อยๆ ลดลงภายในไม่กี่วัน
  • อาการคัน: อาการคันอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากการระคายเคืองของหนังศีรษะ
  • เลือดออก: อาจมีเลือดออกเล็กน้อยหลังการผ่าตัด

การดูแลรักษาหลังปลูกผม

หลังการปลูกผม ผู้ป่วยควรดูแลเส้นผมดังนี้

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: การดูแลหลังการปลูกผมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น สระผมและดูแลหลังผ่าตัดตามที่แพทย์แนะนำ งดออกกำลังกายหนักๆ หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง: ยาที่แพทย์สั่งให้รับประทานมีส่วนช่วยในการลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ปลูกผมมากเกินไป

การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผมที่ปลูกเติบโตอย่างแข็งแรงและลดโอกาสการไม่ขึ้นของผมที่ปลูก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผมถาวร

  1. ปลูกผมแล้ว ผมจะร่วงอีกไหม?
    ผมที่ปลูกมักจะไม่ร่วงอีกต่อไป เนื่องจากรากผมที่นำมาปลูกนั้นมาจากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความต้านทานต่อฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ผมในบริเวณนี้ไม่ร่วงง่ายเหมือนผมบริเวณอื่นๆ แต่หากมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ผมร่วง เช่น โรคบางชนิด การขาดสารอาหาร หรือความเครียด ก็อาจส่งผลกระทบต่อเส้นผมที่ปลูกใหม่ได้
  1. ปลูกผมแล้วเห็นผลเมื่อไหร่?
    หลังจากปลูกผมประมาณ 4-6 สัปดาห์ เส้นผมที่ปลูกจะเริ่มร่วง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเป็นการผลัดเส้นผมเก่าออก จากนั้นประมาณ 3-4 เดือน เส้นผมจะเริ่มงอกใหม่ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 6-12 เดือน
  1. การปลูกผมเจ็บไหม?
    ระหว่างการปลูกผม แพทย์จะให้ยาชา ดังนั้นคุณจึงไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังการปลูกผม อาจมีอาการปวดตึงหนังศีรษะเล็กน้อย หรือรู้สึกตึงๆ บริเวณที่ปลูกและท้ายทอย ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
  1. ปลูกผมแล้วต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
    หลังจากปลูกผม คุณต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น งดออกกำลังกายหนักๆ หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด งดสูบบุหรี่ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้รากผมติดดีและผมงอกใหม่ได้อย่างสมบูรณ์